ภาพการแข่งขัน | วีดีโอคลิป
สนาม อัมสเตอร์ดัม อารีน่า
รายการ แอลจี อัมสเตอร์ดัม ทัวร์นาเมนต์ 2006
เวลา 24.00 น. วันศุกร์ที่ 4 สิงหาคม 2549
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เอาชนะเอฟซี ปอร์โต้ 3-1 ในนัดแรกของศึกอัมสเตอร์ดัม ทัวร์นาเมนต์ ที่สนามอัมสเตอร์ดัม อารีน่า เมื่อคืนวันศุกร์ โดยในนัดนี้มี 2 ใบแดงเป็นของ 2 ผู้ทำประตู เวย์น รูนี่ย์ และพอล สโคลส์
สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือรูนี่ย์ และสโคลส์ อาจจะต้องพลาดการลงสนามในช่วงเปิดฤดูกาลพรีเมียร์ชิพ ถ้าผู้ตัดสินรายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไปที่เอฟเอ ทั้งคู่ก็อาจจะถูกลงโทษห้ามแข่งได้
ปิศาจแดง ต้องพยายามอย่างหนักเพื่อคว้าชัยชนะในบททดสอบที่ยากที่สุดเท่าที่ผ่านมาในช่วงปรีซีซั่น โอเล่ กุนน่าร์ โซลชาร์ ยืนยันชัยชนะด้วยการทำประตูที่ 3 ให้กับแมนฯ ยูไนเต็ด ก่อนที่เปเป้ จะทำประตูตีไข่แตกให้กับปอร์โต้ ทำให้แมนฯ ยูไนเต็ด เก็บ 6 คะแนนจากชัยชนะในนัดนี้ โดยคิดคะแนนประตูที่ยิงได้ประตูละ 1 คะแนน
แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องทำการเปลี่ยนตัวผู้เล่นก่อนเริ่มเกม ริโอ เฟอร์ดินานด์ มีอาการบาดเจ็บที่ข้อเท้าในระหว่างวอร์มอัพ ทำให้จอห์น โอเชีย ได้ลงเล่นแทนเป็นเซ็นเตอร์ฮาล์ฟจับคู่กับเวส บราวน์ และทำผลงานได้ดี ส่วนแบ็คขวาเป็นหน้าที่ของฟิลลิป บาร์ดสลี่ย์ และแบ็คซ้ายเป็นปาทริซ เอวร่า โดยมีเอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ เป็นผู้รักษาประตู
ไมเคิล คาร์ริก ได้ลงประเดิมสนามในชุดแมนฯ ยูไนเต็ด เป็นมิดฟิลด์ตัวกลางคู่กับพอล สโคลส์ โดยมีปาร์ค จีซุง และไรอัน กิ๊กส์ เป็นปีกขวาและปีกซ้าย คู่ศูนย์หน้าเป็นโอเล่ กุนน่าร์ โซลชาร์ และเวย์น รูนี่ย์
ปอร์โต้ เป็นฝ่ายเริ่มเกมได้ดีกว่าโดยมีแอนเดอร์สัน กองกลางวัย 18 ปีคุมเกมในแดนกลางได้ดี แต่หลังจากผ่านไปได้ 11 นาที แมนฯ ยูไนเต็ด ก็มาได้ประตูขึ้นนำ คาร์ริก เปิดลูกเตะมุมไปให้กับสโคลส์ ที่หน้ากรอบเขตโทษ กองกลางหัวแดงครองบอลทำท่าหลอกว่าจะยิง ก่อนที่จะดึงบอลมาเข้าเท้าซ้ายแล้วกดเต็มข้อ บอลพุ่งเรียดเสียบมุมขวาล่างเข้าประตูไปอย่างงดงามชนิดที่เฮลตัน ผู้รักษาประตูของปอร์โต้ ได้แต่หันไปมอง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ขึ้นนำ 1-0 ในนาทีที่ 11
แมนฯ ยูไนเต็ด โชคดีที่ไม่เสียประตูในนาทีที่ 19 เมื่อบราวน์ ส่งบอลคืนหลังเบาเกินไปทำให้ทาริก กองหน้าของปอร์โต้ ตัดบอลไปได้ แต่ฟาน เดอร์ ซาร์ ยังไวออกมานอกกรอบเขตโทษและเข้าไปสกัดให้พ้นอันตรายไปได้
นาทีต่อมา ปิศาจแดง ก็มาได้ประตูที่ 2 จากความมุ่งมั่นของรูนี่ย์ ที่ถูกตัดบอลไปได้แต่ก็ยังวิ่งเข้าไปกดดันทำให้กองหลังของปอร์โต้ ต้องรีบเตะสกัด บอลไปกระดอนรูนี่ย์ กลับไปหน้าประตูของปอร์โต้ ดาวยิงทีมชาติอังกฤษวิ่งตามบอลไป ขณะที่เฮลตัน รีบออกมาปิดมุม รูนี่ย์ ก็ไปถึงบอลก่อนและจัดการชิพบอลข้ามตัวเฮลตัน เข้าประตูไปอย่างเหนือชั้น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ขึ้นนำห่าง 2-0 ในนาทีที่ 20
การต่อบอลของปอร์โต้ ทำได้ดีแต่ยังขาดความแม่นยำในจังหวะสุดท้าย รูนี่ย์ ยังคงทำผลงานได้ดี ในขณะที่โซลชาร์ และกิ๊กส์ ก็มีโอกาสทำประตูทั้งคู่
อย่างไรก็ตาม แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ต้องประสบปัญหาในนาทีที่ 41 เมื่อรูนี่ย์ ถูกไล่ออกจากสนาม รูนี่ย์ กระโดดขึ้นแย่งบอลกลางอากาศกับเปเป้ ท่อนแขนของเขาไปกระแทกกับกองหลังของปอร์โต้ ก็จริงแต่ก็ไม่ได้รุนแรงมาก การได้ใบแดงโดยตรงถือว่าโหดร้ายเกินไป
จบครึ่งเวลาแรก แมนฯ ยูไนเต็ด ขึ้นนำปอร์โต้ 2-0 แต่มีผู้เล่นน้อยกว่า 1 คน
ปิศาจแดง ที่มีผู้เล่น 10 คนเริ่มต้นครึ่งหลังด้วยการตั้งรับและทำได้ดีในการป้องกันเกมรุกของปอร์โต้ แต่สถานการณ์ของทีมก็ต้องย่ำแย่ลงไปอีกหลังจากผ่านไปได้ 68 นาที สโคลส์ ซึ่งเพิ่งจะสวมปลอกแขนกัปตันทีมต่อจากกิ๊กส์ ที่ถูกเปลี่ยนตัวออกไปเข้าสกัดหนักใส่ควาเรสม่า จากด้านหลังทำให้ผู้ตัดสินควักใบเหลืองที่ 2 ให้กับเขากลายเป็นใบแดงต้องออกจากสนามไปอีกคน
แต่ทว่ากลายเป็นแมนฯ ยูไนเต็ด ที่มีผู้เล่นน้อยกว่า 2 คนที่มาทำประตูเพิ่มได้อีก คีแรน ริชาร์ดสัน ตัวสำรองพาบอลขึ้นมาก่อนที่จะไหลออกทางซ้ายให้กับโซลชาร์ ดาวยิงชาวนอร์เวย์พาบอลลุยเข้าไปในกรอบเขตโทษหลบผ่านบอซิงว่า ไปได้ก่อนที่จะยิงบอลเรียดลอดขาผู้รักษาประตูเข้าไปตุงตาข่ายอย่างสวยงาม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นำห่าง 3-0 ในนาทีที่ 74
ปอร์โต้ มาทำประตูตีไข่แตกได้ในนาทีที่ 76 จากเปเป้ ด้วยลูกยิงไกลผ่านมือเบน ฟอสเตอร์ ผู้รักษาประตูสำรองของแมนฯ ยูไนเต็ด เข้าประตูไป ก่อนหน้านั้น ฟอสเตอร์ ต้องออกแรงเซฟลูกยิงไกลของแอนเดอน์สัน แต่เขาหมดสิทธิ์ป้องกันลูกยิงของเปเป้ ที่พุ่งเสียบมุมบนเข้าไป
คาร์ริก ซึ่งถูกเปลี่ยนตัวออกแทนที่ด้วยลี มาร์ติน ในนาทีที่ 77 ทำผลงานได้ดีในการลงประเดิมสนามนัดแรกให้กับแมนฯ ยูไนเต็ด
จบเกม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เอาชนะเอฟซี ปอร์โต้ ไปได้ 3-1 เก็บ 6 คะแนนเป็นผู้นำของอัมสเตอร์ดัม ทัวร์นาเมนต์ หลังจากแข่งนัดแรกครบทุกทีม โดยปิศาจแดง จะลงแข่งอีกนัดพบกับเจ้าถิ่น อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ในคืนวันเสาร์
รายชื่อผู้เล่นของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ (เบน ฟอสเตอร์ น. 60), ฟิลลิป บาร์ดสลี่ย์, จอห์น โอเชีย (แดนนี่ ซิมป์สัน น. 59), เวส บราวน์, ปาทริซ เอวร่า, ปาร์ค จีซุง (ดาร์เรน เฟล็ตเชอร์ น. 73), ไมเคิล คาร์ริก (ลี มาร์ติน น. 77), พอล สโคลส์, ไรอัน กิ๊กส์ (คีแรน ริชาร์ดสัน น. 67), เวย์น รูนี่ย์, โอเล่ กุนน่าร์ โซลชาร์
ตัวสำรองไม่ได้ลงสนาม เดวิด โจนส์, จูเซ็ปเป้ รอสซี่, เลียม มิลเลอร์
DaKinG